![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEi9lJOrVeSZIZ6J01Qpzo6l0mzzZRe-dUo8JrjKL2NW7Xzch2kXY0MaRgoZlYC32rItXDQZg3t2FY-MbVMs0Zl90XtWq8DxzVGnDa2h2YrdRquJ-KJAVCSbKT2uJtLjIARctgOVT5af57fi/s1600/gpsdl-001-show.jpg)
วิธีใช้ GPS tracker 102B เก็บข้อมูลการเดินทาง
มาดูบน Google Earth และ Google Maps
![:(game) play game](http://mail.yimg.com/ok/u/assets/img/emoticons/emo70.gif)
GPS tracker 102B จะมีฟังก์ชั่นพิเศษเพิ่มขึ้นมา
คือมีระบบเก็บข้อมูลการเดินทาง หรือ Data Logger
ปกติ ฟังก์ชั่นนี้จะทำงานอัตโนมัติเมื่อ
ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ หรือ สัญญาณ GPRS
แต่เราสามารถสั่งงานแบบ manual ได้
การใช้งานเริ่มจากส่งคำสั่ง save ไปที่ GPS tracker
เพื่อเปิดทำการบันทึกข้อมูลเดินทาง รูปแบบคำสั่งคือ
"save+ระยะห่างเวลาบันทึก+หน่วย+จำนวนจุดที่บันทึก+n+password"
โดย ระยะห่างเวลาบันทึก ต้องเป็นตัวเลข 3 หลักเท่านั้น
ส่วนหน่วย ใช้ h สำหรับชั่วโมง, m สำหรับนาที, s สำหรับวินาที
จำนวนจุดที่บันทึก ต้องเป็นตัวเลข 3 หลักเท่านั้น
หรืออาจใช้ "***" (ดอกจัน 3 ตัว) แทนการบันทึกไม่กำหนดจำนวน
ตามตัวอย่างพิมพ์ "save030s***n123456"
คือ บันทึกทุกๆ 30 วินาที ไม่จำกัดจำนวน
เนื่องจากปกติ GPS tracker เมื่อทำงานในโหมด GPRS หรือ Tracking Realtime
จะมีการเช็คตำแหน่งและส่งข้อมูลเข้า server ตลอดเวลา
แต่เมื่อเราไม่ได้ใช้โหมดนี้
เครื่องจะเข้าโหมด standby อัตโนมัติหลังไม่ใช้งาน 5 นาที
และไม่มีการเช็คพิกัดใหม่ ทำให้เก็บข้อมูลพิกัดเดิมซ้ำๆ
ทางแก้ก็คือ ให้ใช้คำสั่งที่ทำให้เครื่องตรวจเช็คพิกัดเรื่อยๆ
ในตัวอย่างใช้คำสั่ง stockade เป็นคำสั่งตรวจสอบการออกนอกขอบเขต
โดยกำหนดขอบเขตพิกัดไว้ที่ค่าต่ำสุดและสูงสุดของบนโลก
พิกัด lat,long ต่ำสุดคือ 0.000000,0.000000
พิกัด lat,long สูงสุดคือ 90.000000,180.000000
พิมพ์คำสั่งตามนี้ "stockade123456 0.000000,0.000000;90.000000,180.000000"
หลังจากนั้นสามารถนำไปใช้งานเพื่อบันทึกการเดินทาง
โดยที่เรายังสามารถขอพิกัดได้ตามปกติ
*หมายเหตุ ก่อนนำไปใช้งาน ควรนำเครื่องไปไว้ที่โล่งประมาณ 5-10 นาที
เพื่อให้ได้พิกัดก่อน ตรวจสอบได้โดยโทรฯเข้าเครื่อง แล้วรอ SMS ตอบกลับ
ถ้ามีค่า lat และ long แสดงว่าเครื่องสามารถเช็คตำแหน่งได้แล้ว
เมื่อนำเครื่องไปบันทึกการเดินทางแล้ว
วิธีดึงข้อมูลขึ้นมาทำโดยต่อสาย USB กับตัวเครื่อง
* ก่อนต่อสาย USB ต้องปิดเครื่องก่อน โดยกดปุ่ม ON/OFF ค้างไว้ 5 วินาที
(1) คอมพิวเตอร์จะเห็น Removable Disk 2 ตัว
ข้อมูลจะอยู่ที่ตัวแรก ไฟล์จะเป็นแบบ text ตั้งชื่อเป็น ปีเดือนวัน ที่บันทึก
(2) ให้คลิกเมาส์ปุ่มขวาค้างไว้ที่ไฟล์
แล้วลากไปไว้บนโฟลเดอร์ของคอมพิวเตอร์ที่เราต้องการเก็บ
(3) จากนั้นปล่อยปุ่มเมาส์ แล้วเลือกไปที่ Move here
เมื่อได้ไฟล์มาไว้ที่คอมพิวเตอร์แล้ว
เนื่องจากไฟล์ที่ได้จะมีรูปแบบเป็น NMEA
(1) ให้ทำการแปลงไฟล์ โดยเปิด IE แล้วเข้าไปที่เว็บไซต์
(2) คลิกที่ Browse... แล้วเลือกไปที่โฟลเดอร์และไฟล์ที่เราเก็บไว้
(3) จากนั้นคลิกที่ Convert NMEA to KML
(1) ที่ด้านล่างของ IE จะมีกรอบขึ้นมา ให้คลิกที่รูปสามเหลี่ยมข้าง Save
(2) แล้วเลือกไปที่ Save as
(1) ที่ช่อง Save as type: ให้เลือกเป็น All Files
(2) ที่ช่อง File name: ให้เติม .kml ต่อท้าย
(3) จากนั้นคลิกที่ Save
ไฟล์ที่ได้จะเป็นแบบ KML
สามารถเปิดได้บน Google Earth และ Google Maps
การเปิดดูบน Google Earth
ให้ทำการติดตั้งโปรแกรม Google Earth สามารถ download ได้จาก
http://www.google.com/intl/th/earth/download/ge/agree.html
เมื่อติดตั้งเสร็จแล้วให้เปิดโปรแกรม
(1) เลือกไปที่เมนู File แล้วเลือกที่ Open (หรือกด Ctrl + O)
(2) เลือกไปที่โฟลเดอร์ที่เก็บไฟล์
(3) เลือกไฟล์ที่แปลงได้มา ซึ่งจะเป็นแบบ KML ไม่ใช่ text
(4) คลิกไปที่ Open
เส้นทางที่ทำการบันทึกจะแสดงซ้อนบน Google Earth
การเปิดดูบน Google Maps
* จำเป็นต้องมี Account ของ Gmail ก่อน สามารถสมัครได้ฟรี
(1) ให้เปิดไปที่เว็บ
(2) Sign in เข้าระบบ
(3) คลิกไปที่ My places
(4) คลิกไปที่ CREATE MAP
(1) คลิกไปที่ Import
(2) คลิกที่ Browser... แล้วเลือกไปที่โฟลเดอร์และไฟล์ที่แปลงมา
(3) คลิกที่ Upload from File
จะได้รายละเอียดเส้นทางการเดินทางซ้อนบน Google Maps
ใช้งานจริงไม่ยากครับ
พอรู้ขั้นตอนแล้วจะสามารถทำได้ง่ายมากๆ